เทคโนโลยีสเต็มเซลล์ กับการจัดเก็บอะไหล่ของตนเองไว้ใช้ภายหน้า

Written by . Posted in กระแสเทคโนโลยี

สเต็มเซลล์3

Published on with No Comments

ชื่อของ เทคโนโลยีสเต็มเซลล์นั้นเป็นชื่อที่ผู้คนคุ้นเคยผ่านหูมาเป็นเวลานานพอสมควร
เป็นเทคโนโลยีในโลกยุคใหม่แต่ไม่ใช่เรื่องใหม่

สเต็มเซลล์ คือเทคโนโลยีของการนำเอา เซลล์ต้นกำเนิดมาใช้ในการรักษารักษาเนื้อเยื่อหรือฟื้นฟูร่างกายและมีความสามารถในหลายๆด้าน โดยหลักของกระบวนการก็คือการ ถ่ายผลัดเซลล์ให้กับร่างกาย กลับคืนสู่เซลล์ที่อ่อนวัยอีกครั้ง ในบริเวณของร่างกายที่ทำการผลัดเปลี่ยน

สเต็มเซลล์

ทว่ากระบวนการของเทคโนโลยีสเต็มเซลล์ในปัจจุบันนี้ ยังมีแง่มุมที่ต้องควบคุมลักษณะการนำมาใช้ ซึ่งมีทั้งเสียงต่อต้านถึงกระบวนการผิดๆ ทั้งในเรื่องของการได้มาซึ่งเซลล์ต้นกำเนิดจากวิธีที่ผิดต่อศีลธรรม จริยธรรม

ทั้งการนำมาใช้ในแง่เสริมความงามอย่างผิดวิธี และทั้งในเรื่องของการอวดอ้างเกาะกระแสถึงเทคโนโลยีนี้จากสถานบริการต่างๆ ที่ใช้กระบวนการอย่างไม่มาตรฐาน หรือเชื่อมโยงเพียงเล็กน้อยแต่อ้างว่าใช้เทคโนโลยีนี้ และไม่ได้ประสิทธิผลจากเทคโนโลยีสเต็มเซลล์อย่างแท้จริง การนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์เกินกรอบอันควรมากเกินไป

สเต็มเซลล์2

อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงเทคโนโลยี สเต็มเซลล์ สำหรับบุคคลทั่วไป ยังมีปัญหาในด้านของค่าใช้จ่ายที่สูง และการเสี่ยงต่อผลข้างเคียง รวมถึงการสิ้นเปลืองในการใช้งาน ที่เกิดผลเพียงเล็กน้อยหรือเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ และต้องทำการเปลี่ยนถ่ายอยู่เสมอ

ซึ่งเทคโนโลยี สเต็มเซลล์ หากใช้อย่างถูกต้องเหมาะสม ก็สามารถสร้างคุณประโยชน์ได้อย่างมหาศาล และก็ยังเป็นที่โต้เถียงกันอยู่พอสมควร ถึงการนำเทคโนโลยีนี้มาพัฒนา อันอาจเสี่ยงต่อการควบคุม ไม่ให้ใช้ในทางที่ผิด ซึ่งอาจควบคุมได้ไม่ทั่วถึง

โดยการใช้ในทางก่อเกิดประโยชน์และถูกต้องนั้น หมายถึงการได้มาซึ่ง
สเต็มเซลล์ โดยวิธีที่ไม่ขัดต่อจริยธรรม และการนำมาใช้ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บชนิดร้ายแรงต่างๆ

ซึ่งล่าสุดเทคโนโลยีสเต็มเซลล์ ได้พัฒนาวิธีในการได้มาซึ่ง
สเต็มเซลล์จากสายสะดือของทารก ด้วยการเสนอกระบวนการจัดเก็บรักษา ที่สามารถเก็บเลือดจากสายสะดือทารกไว้ได้ยาวนานนับหลายปี

สเต็มเซลล์3

โดยครอบครัวของทารกที่ใช้บริการในการเก็บรักษาสเต็มเซลล์สายสะดือ จากโรงพยาบาลที่มีความพร้อมในเทคโนโลยีนี้ จะสามารถมีสเต็มเซลล์ ที่ใกล้เคียงความเข้ากันได้กับบุคคลในครอบครัว และตัวทารกเองในยามโต ไว้ใช้ในยามจำเป็น ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง
จากการนำสเต็มเซลล์ ของบุคคลภายนอกอื่น มาใช้และเกิดความเข้ากันไม่ได้จนร่างกายเกิดปฏิกริยาต่อต้าน และเพิ่มการเห็นผลในการใช้งานเพื่อการรักษาโรคต่างๆได้ในภายภาคหน้า
ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง โรคมะเร็งเม็ดเลือดและมะเร็งต่อมน้าเหลือง ความผิดปกติทางพัณธุกรรม
และเซลล์เม็ดเลือด และความผิดปกติของกระบวนการต่างๆในร่างกาย

นั่นเท่ากับว่า ลดปัญหาในด้านการขัดต่อจริยธรรม อันเนื่องมาจาก บุคคลนั้นๆได้ใช้สเต็มเซลล์ของตนเองหรือสมาชิกในครอบครัวของตนเอง ที่ได้เคยเก็บสเต็มเซลล์จากสายสะดือ เอาไว้ในยามหลังคลอด และยังลดปัญหาในเรื่องของผลข้างเคียงอีกด้วย

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ยังคงเป็นสิ่งที่ก็ต้องได้รับการควบคุมและจับตาอยู่พอสมควร
อันเนื่องจากว่า แม้จะเป็นสเต็มเซลล์ที่มาจากบุคคลอื่น ก็ยังถือเป็นสิ่งที่ต้องการและมีมูลค่าอยู่เช่นกัน
หากมีการได้มาซึ่งเสต็มเซลล์ที่เอามาจากวิธีที่ผิด หรือการก่ออาชญากรรม นั่นถือเป็นภาวะที่สร้างความเลวร้ายต่อสังคมโลกเป็นอย่างมาก

อีกทั้งหากเทคโนโลยียุคใหม่ ส่งผลทำให้ ส่วนของร่างกายมนุษย์ก่อเกิดมูลค่ามากขึ้นเท่าใด
การพาณิชย์ที่ยิ่งทวีคูณขึ้นนั้น อาจทำให้เกิดข้อกังวลที่น่าเป็นห่วงถึงการ ยักยอก อวัยวะ ชิ้นส่วน หรือเซลล์ของร่างกาย ภายในโรงพยาบาลได้อีกด้วย ได้หรือไม่?

สเต็มเซลล์-4

ท้ายที่สุดเท่าที่พบเห็นเทคโนโลยีสาขาต่างๆที่ผ่านเข้ามาในโลกยุคใหม่ หลายเทคโลยี ไม่สามารถถูกสกัดกั้นได้ แต่ทว่า หนทางในการทำอย่างถูกต้องที่ก่อเกิดขึ้นก็ถือเป็นทางเลือกที่ผู้ใช้อย่างถูกต้องยังจะมีจำนวนอยู่จรรโลงโลกได้เช่นกัน ซึ่งเทคโนโลยี การปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จากสายสะดือ ของตนเอง ของทารกไว้ใช้ในภายหน้า หรือช่วยคนในครอบครัวนั้น
เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการเผยแพร่และโปรโมทจากโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งผู้ประสงค์ใช้บริการอาจยังต้องคำนึงถึง ประสิทธิภาพ ของผู้ทำกระบวนการ และประสิทธิผลของรูปแบบวิธีนี้ ว่ามีการรับรองผลอย่างเป็นมาตรฐานสากลแล้วในระดับใด และให้ความสำเร็จในระดับใด

 

 

About

Browse Archived Articles by

No Comments

There are currently no comments on เทคโนโลยีสเต็มเซลล์ กับการจัดเก็บอะไหล่ของตนเองไว้ใช้ภายหน้า. Perhaps you would like to add one of your own?

Leave a Comment