แทบไม่เหลืออีกแล้ว ร้านเซเว่นที่ต้อนรับเจื้อยแจ้วอย่างอบอุ่นไพเราะ

ในยุคที่กิจการของร้านเซเว่นอีเลเว่น ได้เข้ามาเปิดกิจการในยุคแรกๆและนับจากนั้นต่อมาอีกหลายปีซึ่งเป็นช่วงเวลาใหญ่ๆ สิ่งหนึ่งที่เรามักจะได้พบเห็นกันอยู่เสมอนั่นก็คือ มาตรฐานการต้อนรับและบริการ ที่ดีเหลือเกินอย่างน่าชื่นชม พนักงานมากมาย ที่ดั่งผ่านการอบรมมาเป็นอย่างดี กล่าวต้อนรับด้วยถ้อยคำที่ไพเราะและสีหน้ายิ้มแย้ม มีความตื่นตัวสูง และนั่นก็เป็นยุคที่  รูปแบบการทำธุรกิจที่จริงจังกระตือรือร้นสูง และต้องมีชีวิตชีวามีความรักงาน ซึ่งได้รับความแพร่หลายแนวทางนี้มาจากญี่ปุ่น กำลังได้รับการตื่นตัวในระบบการจัดการธุรกิจในไทย

และจากนั้นก็ไม่แปลกเลยที่ร้านเซเว่นจะประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ได้รับการตอบรับจากสังคม และมีสาขาเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ

โดยเฉพาะในช่วงที่เราจะได้รับฟังคำพูดไพเราะยอดฮิตของพนักงาน อย่างเช่น “สวัสดีเชิญค่ะ “รับซาลาเปาไหมคะ” ขอบคุณมากนะคะโอกาสหน้าเชิญใหม่”  เหล่านี้เป้นต้น

แต่ทว่าเมื่อวันเวลาผ่านไป มีผู้สนใจที่จะเปิดมาก จึงทำให้ในวันนี้ ร้านเซเว่น จึงมีสาขาเยอะแยะมีสาขามากมาย และเริ่มมีรูปแบบการควบคุมที่ บรรดาเจ้าของร้านแต่ละร้านมีแนวทางที่แตกต่างกัน

ในวันนี้พนักงานร้านเซเว่น มิใช่พนักงานที่ยิ้มแย้มแจ่มใสไพเราะและดูมีมาตรฐานเหมือนเก่า

ใบหน้าที่เฉยชา ใบหน้าที่เบื่อหน่าย ใบหน้าและกริยาที่เมินไม่สนใจ หรือแม้กระทั่งใบหน้าและกริยาที่บึ้งตึง ได้เริ่มเข้ามาแทนที่ มากขึ้น มากขึ้นทุกที

ในวันนี้ร้านเซเว่นที่อบอุ่นน่ารักในวันวาน คงเป็นเพียงอดีตที่ผ่านหายไปเพียงเท่านั้น