กระแสต่อต้าน โรงหนังเมเจอร์เอาเปรียบผู้บริโภค ปัญหาเรื้อรังที่ไม่จบ

Written by . Posted in สังคมและพฤติกรรมผู้คน

Tagged: , , , ,

เมเจอร์เอาเปรียบ-5

Published on with No Comments

กระแสต่อต้าน โรงหนังเอาเปรียบผู้บริโภค ปัญหาเรื้อรังที่ยังไม่จบ

 

เมเจอร์เอาเปรียบ-3

สำหรับกระแสเรื่อง ค่าบริการที่แสนแพงของโรงหนังเครือดัง อย่างเมเจอร์ ในขณะนี้นั้นมีหลายประเด็นที่สังคมกำลังให้การวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยลูกค้า กลุ่มใหญ่ส่วนหนึ่งที่รู้สึกว่า การให้บริการของโรงหนัง นั้นเอาเปรียบผู้บริโภคมากเกินไป โดยประเด็นที่ เป็นที่เป็นข้อ ที่สร้างความไม่พอใจนั้นมีดังนี้

1.บัตรค่าเข้าชม มีราคาแพง หากคุณไปดูหนังสองคน จะเสียเงินค่าตั๋วราวๆเกือบ500บาท

2.บัตรเข้าชมมีการหมกเม็ด ราคาที่ไม่แน่นอน ไม่ติดป้ายแจ้งอย่างเด่นชัด แต่จะไปแจ้งในระหว่างขั้นตอนการจ่ายที่เคาเตอร์ ขายตั๋ว ซึ่งมีการอ้างถึง หนังใหม่บ้าง หนังดังบ้าง และวันเข้าชมรวมถึง รอบที่เข้าชม เรียกได้ว่าไหลได้เรื่อย สำหรับเหตุผลที่ยกมาอ้างถึงราคา  รวมถึงมีเทคนิคที่น่ารังเกียจ ในการกดดันให้ลุกค้าซื้อตั๋วในราคาที่แพง  อย่างเช่นการเดินมาพูดชักชวน ให้ไปเข้าช่องทางพิเศษ ไม่ต้องมาต่อคิดยาวในช่องทางธรรมดา

3.มีการจำหน่ายขนมเครื่องดื่มที่แพง เกินจริงหลายเท่าตัว ทั้งที่ขนมและเครื่องดื่มบางชนิดมิได้ผลิตขึ้นเองแต่เป็นยี่ห้อธรรมดาที่มีจำหน่ายทั่วไปภายนอก

4.มีการตรวจค้นกระเป๋า เพื่อตรวจหาไม่ให้นำน้ำและขนมจากภายนอกเข้าไปรับประทาน และต้องซื้อแต่ภายในโรงหนังเท่านั้น

5.เมื่อผ่านกระบวนการเอาเปรียบไปสารพัดชนิดแล้ว และได้เข้าไปในโรงหนัง ก็ยังจะถูกเปิดฉายโฆษณาให้ดูยาวนานมากกว่า20นาที

 

เมเจอร์เอาเปรียบ-6

และด้วยเหตุต่างๆเหล่านี้จึงเกิดเสียงร้องเรียน อย่างมากมาย ไปที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภค

แต่อย่างไรก็ตามยังมีเสียง จากคนบางส่วน ที่กล่าวยกเหตุผลว่า  ทางโรงหนังไม่ได้บังคับให้ใครไปใช้บริการ ดังนั้นเขามีสิทธิจะทำอย่างไรก็ได้

อีกทั้งยังยกเหตุผลว่า  ร้านเสื้อผ้า  และร้านอาหาร ยังมีการแบ่งเกรด ซึ่งบางร้านมีการจำหน่ายสินค้าของตนที่แพงแสนแพง หรือบางโรงแรมหรูที่คิดค่าบริการและสินค้าต่างๆในราคาที่แสนแพง ทำไมธุรกิจเหล่านั้นยังทำได้  และลูกค้าเลือกได้ว่าจะเข้าไปใช้บริการหรือไม่ไปใช้บริการ  ดังนั้นในกรณีโรงหนัง เมเจอร์ก็เช่นเดียวกันดังนั้นอย่าบ่น อีกทั้งสินค้าและบริการของเมเจอร์มิใช่สินค้าจำเป็นที่จะต้อง ได้รับการควบคุมราคาสักหน่อย

เมเจอร์เอาเปรียบ-5

 เราจะเห็นได้ว่า มีเสียงแย้งกันเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งมาจากผู้บริโภค และอีกฝ่ายหนึ่งมาจากทั้งผู้บริโภคบางส่วนที่เชื่อว่าโรงหนังมีสิทธิทำเช่นนั้นได้ และรวมกับเสียงจากคนบางกลุ่มที่เป็นผู้ที่ไม่สนใจไปดูหนัง ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร หรือรู้สึกไม่ชอบพวกที่ค่านิยมฟุ้งเฟ้อ ก็รู้สึกชอบใจที่โดนกันแบบนี้  ต้องการให้เข็ดให้เลิกใช้บริการกันไป จึงมิได้ช่วยต่อต้านอะไรแถมยังแก้ต่างให้โรงหนังแทนก็มี  นอกจากนี้ยังรวมกับ กลุ่มคนที่เป็นคนของเมเจอร์เองที่คอยโต้เถียงกับบรรดาผู้บริโภคตามเว็ปบอดร์ต่างๆ

ส่วนเหตุผลที่ฝ่าย รนรงค์ต่อต้านการเอาเปรียบผู้บริโภค ก็มีข้อแย้งกลับมาเช่นกัน หากเราพิจารณาให้ดีเราจะพบว่าร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม หรูต่างๆนั้นมีบริบทที่ต่างกันกับโรงหนัง  เพราะร้านค้า ร้านอาหารและบริการสถานที่หรูๆนั้น ประชาชนไม่ได้รู้สึก ทุกข์ร้อนใจอะไรนัก ที่มีสถานประกอบธุรกิจเหล่านี้ เพราะตัวเลือกมีมากมาย ร้านอาหารถูกๆร้านขนมถูกๆร้านค้าหลายระดับราคา โรงแรมหลายระดับราคา ซึ่งต่างกับธุรกิจประเภทโรงหนัง ที่ถือเป็นแหล่งที่ช่วยพักผ่อนหย่อนใจ คลายเครียดผ่อนคลายให้กับประชาชนได้ แต่กลับถูกผูกขาดได้ง่าย

ธุรกิจโรงหนังมีลักษณะแข่งขันกัน ที่มีแง่มุมมีช่องทาง ให้ใช้กลยุทธ์ บี้เบียดโรงหนังระดับเล็กๆจนอยู่แทบไม่ได้ จะเหลืออย่างเก่งก็ ไม่กี่ราย จนสามารถทำธุรกิจในลักษณะผูกขาดตลาดได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งการจำหน่ายขนมน้ำที่ราคาแสนแพง ในแบบที่ประชาชนรู้สึกว่ามันแตกต่างกับการเอาไปเทียบกับธุรกิจสินค้าที่จำหน่ายราคาแพง ซึ่งสินค้ามากมายในโลกที่สร้างแบรนด์ขึ้นมาอย่างสง่างาม และผู้คนยอมรับและเต็มใจที่จะจ่าย ประเด็นเรื่องการดำเนินธุรกิจอย่าง สร้างภาพลักษณ์น่าชื่นชม ซึ่งต่างกับธุรกิจที่ดำเนินในรูปแบบไม่สมเหตุสมผล และดูเอาเปรียบขูดเลือดขูดเนื้อนั้นมีบริบทที่แตกต่างกัน

เมอเจอร์มาในแนวทางเดียวกันกับ  แบรนด์เนมแฟชั่นจากฝรั่งเศส หรือสินค้าไอทีเกรดหรูจาก แอปเปิล หรือภัตคารรสเลิศวัตถุดิบหรู อย่างนั้นหรือไม่?

 

เมเจอร์เอาเปรียบ-4

การดำเนินธุรกิจแบบเป็นขั้นเป็นตอนมีความสมเหตุสมผล นั้นต่างกันกับธุรกิจที่ดูหัวแหลมเจ้าเล่ห์ใช้ช่องกล ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคย่อมรุ้สึกได้เองจากมโนสำนึก ว่ามันมีความแตกต่างกัน

อีกทั้งการห้ามไม่ให้นำขนมและน้ำจากภายนอกเข้าไป ทานในโรงหนังแม้ว่าจะเป็นชนิดเดียวกันก็ตาม นั้นยังเป็นข้อถกเถียงกันอยู่ว่า ทางเมเจอร์มีสิทธหรือไม่ แม้ว่าเมเจอร์จะเป็นเจ้าของสถานที่ แต่มีสิทธิจำกัด สิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ในการดื่มน้ำได้ด้วยหรือ

เมเจอร์เป็นโรงหนัง มีลักษณะการทำธุรกิจให้บริการชมภาพยนตร์ เอาไปเปรียบเทียบกับร้านอาหารอ้างกฏเดียวกับร้านอาหารได้หรือไม่?

 

เมเจอร์เอาเปรียบ

รวมถึงการตรวจค้นกระเป๋านั้นถือว่าละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลหรือไม่ เพราะโดยปรกติแล้วการตรวจค้นกระเป๋าตรวจค้นตัวนั้น ต้องถูกปฏิบัติโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่มีหน้าที่โดยตรงและต้องคาบเกี่ยวกับ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เรื่องที่เป็นอันตรายต่อชีวิต  เมเจอร์มีสิทธิที่จะให้พนักงานดำเนินการถึงขั้นนี้ได้จริงหรือ?

รวมถึงการไม่แสดงราคาที่แน่นอนชัดเจน ในที่เด่นชัด  การกำหนดราคาพลิกแพลงไปมาอย่างไม่มีหลักแน่นอน รวมถึงการขึ้นราคาได้โดยไม่ต้องขออณุญาติจากหน่วยงานใด นี่คือสิ่งที่เป็นคำถามว่า เมเจอร์ทำได้หรือไม่ ขัดกับกฎหมายหรือไม่?

การให้บริการที่เอาเปรียบผู้บริโภคมากเกินไปอย่างการบังคับให้ดูโฆษณาอย่างยาวนาน ทั้งที่เป็นบริการที่เก็บเงินจากผู้เข้าชม แบบนี้ผิดหลักกฏหมายหรือไม่

 

เมเจอร์เอาเปรียบ-2

อย่างไรก็ตามข้อถกเถียงนี้ในฝ่ายที่เข้าข้างเมเจอร์ก็มักจะยืนยันว่าเมเจอร์มีสิทธิ์ที่จะทำได้ สถานที่ของเขาสินค้าของเขา แต่ ในที่สุดแล้วคำตอบก็คือถ้ากฏหมายบัญญัติไว้ว่าสิ่งนี้ ผิด มันก็ต้องผิด!

และในส่วนที่ผู้บริโภคเรียกร้องตามสื่อต่างๆระบายและประจาน ในสิ่งต่างๆที่ไม่พอใจเมเจอร์ นั่นก็ถือเป็นสิทธิ์ของผู้บริโภคเช่นกัน ที่มีสิทธิ์บอกต่อกันไป หรือมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นว่าไม่ชอบแบบไหน แม้ว่ากฏหมายจะทำอะไรไม่ได้ หรือแม้ว่าไม่ผิดกฏหมาย แต่ผู้บริโภคก็มีสิทธิไม่พอใจในบริการที่ได้รับ  ซึ่งมันจะส่งผลให้สังคมรับรู้ว่า เมเจอร์เป็นอย่างไรบ้าง ผู้คนทั่วไปที่ ใครรับได้หรือเห็นว่าเมเจอร์ไม่ผิด ก็ไปดูหนังต่อไป แต่ถ้าผู้คนที่รังเกียจและไม่ชอบอะไรแบบนี้ ก็จะได้รับรู้โดยทั่วกันว่ามันเป็นแบบนี้ นั่นคือสิ่งที่ผู้บริโภคมีสิทธิ์ทำได้

รวมถึงคำถามที่ว่า ทุกวันนี้ถ้าใครเป็นเจ้าของสถานที่เจ้าของสินค้าแล้วจะทำยังไงก็ได้ไม่ผิด  ถ้าเช่นนั้นเรามีหน่วยงานดูแลเรื่องนี้ขึ้นมาทำไม

Consumer protection-10

เรามีการควบคุมสินค้าราคาทุกชนิดแม้ว่าสินค้านั้นจะไม่ใช่สิ่งจำเป็นก็ตาม  แต่สินค้าประเภทขนมน้ำหวาน และอีกมากมายก็ล้วนถูกควบคุม แม้แต่ภัตคารหรู หรือร้านค้าหรูถ้ามีสิ่งใดที่เอาเปรียบผู้บริโภคมากเกินไป สถานประกอบการนั้นย่อมถูกควบคุม รวมถึง การขายสินค้าเกินราคา  ในโรงแรมหรูหรือในโรงพยาบาลหรู หลายแห่งนั้นไม่ถูกร้องเรียน หรือถูกปล่อยปละละเว้นได้เพราะอะไร?   แต่ที่แน่ๆถ้าตามกฏหมายแล้ว ย่อมสามารถดำเนินการเอาผิดได้ถ้าทางเจ้าหน้าที่รัฐจะทำจริงๆก็อาศัยข้อกฏหมายได้ แต่ ที่ได้รับการละเว้นเพราะมันไม่กระทบต่อความไม่พอใจของประชาชน

และนั่นคือแก่นที่ต้องพิจารณาให้ถ่องแท้ว่า การทำธุรกิจที่สร้างความไม่พอใจให้กับผู้คนมากหลายนั่น ย่อมคือสิ่งที่จะได้รับปฏิกริยาสะท้อนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

และที่แน่นอนคือ ยุคสมัยที่โรงภาพยนตร์เป็นที่บันเทิงผ่อนคลายให้กับประชาชนในสังคมโดยทั่วไป นั้นเริ่มไม่มีอีกแล้ว

เพราะยุคสมัยนี้โรงภาพยนตร์เริ่มเป็นสิ่งที่ต้อนรับเฉพาะชนชั้นอีกระดับที่มีเงินจ่ายเท่านั้น

และจะมีหรือไม่ ธุรกิจภาพยนตร์ ที่สามารถเป็นที่รักของลูกค้าได้ เหมือนกับแบรนด์สินค้าหลายๆแบรนด์ที่มีแฟนคลับอยู่มากมาย

About

Browse Archived Articles by

No Comments

There are currently no comments on กระแสต่อต้าน โรงหนังเมเจอร์เอาเปรียบผู้บริโภค ปัญหาเรื้อรังที่ไม่จบ. Perhaps you would like to add one of your own?

Leave a Comment