อนาคตแรงงานอาจตกงานกันมากขึ้น เมื่องานวิจัยชี้ เครื่องจักรทำหน้าที่แทนคนในอีก 7 ปีข้างหน้า

Written by . Posted in กระแสเทคโนโลยี

หุ่น5

Published on with No Comments

นับเป็นข่าวที่หน้าหวั่นใจที่ส่งผลถึงการเปลี่ยนแปลงตลาดแรงงานในระดับโลก เมื่อมีการรายงาน จากการประชุมเศรษฐกิจโลกในเมืองดาวอส เมื่อไม่นานมานี้ ว่าในอีก 7 ปีข้างหน้า ภายในปี ค.ศ. 2025 กว่า 50% ของงานทุกอย่างทั้งหมดที่มีบนโลก เหล่าแรงงานจะถูกแทนที่ด้วยเครื่องจักรกลหรือหุ่นยนต์แทน โดยจะเข้ามามีบทบาทในการทำหน้าที่ต่างๆ ทั้ง อุตสาหกรรมโรงงาน บริษัท ห้างสรรพสินค้า หรือ ร้านค้า การบริการ ทำให้ต้องรีบหาทางรับมือกับปัญหานี้โดยเร็วก่อนที่จะสายเกินแก้ และกลายเป็นปัญหาการตกงานจำนวนมาก ไปในที่สุด

หุ่น1

 สภาเศรษฐกิจโลก หรือที่เรียกกันว่า WEF ต่างหาลือกันเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เนื่องด้วย ผลสรุปการคาดการว่า หุ่นยนต์จะมีบทบาทเข้ามาแทนที่แรงงาน และหุ่นยนต์จะได้งานทำมากกว่าถึง 52% โดยจะสูงขึ้นจากปัจจุบันกว่า 29% ที่มีหุ่นยนต์เข้ามาทำงานแทนที่แรงงานในจากเดิม จึงนับเป็นปัญหาอันน่าหวั่นวิตก
อีกทั้งเทคโนโลยีในปัจจุบันเอง ก็พัฒนาขึ้นทุกวันอย่างรวดเร็ว และอาจทำให้ภายในปี ค.ศ. 2022 งานทั่วโลกกว่า 75 ล้านตำแหน่ง ก็จะกลายเป็นหน้าที่ของเครื่องจักรกันหมด แต่ว่าจะถูกชดเชยด้วยงานใหม่ที่เพิ่มเข้ามาถึง 133 ตำแหน่ง
 หุ่น4
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่อาจนิ่งนอนใจได้ ต้องเตรียมพร้อมและแก้ไขสภาพแรงงานในปัจจุบันเสียก่อนที่ความนิยมการใช้เครื่องจักรนั้น จะเข้ามาแทนที่ตำแหน่งแรงงานเหล่านี้ในที่สุด
นับเป็นปัญหาที่ท้าทายต่อเหล่านายจ้างอย่างยิ่ง ซึ่งจะต้องมีการ ฝึกอบรม ให้ความรู้แก่เหล่าแรงงาน ทั้งในอุตสาหกรรม หรือพนักงานตามห้าง บริษัทต่างๆ เพื่อรับมือหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าวอันเป็นเรื่องสำคัญ ที่สามารถทำได้ในตอนนี้ ก่อนจะสายเกินไป
 หุ่น5
ถึงแม้การเร่งฝึกอบรมแรงงาน จะเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็ยังน่าเป็นห่วงว่าหน่วยงานต่างๆ ทั่วโลกจะให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวหรือไม่
ซึ่งคุณ Saadia Zahidi หนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการสภาเศรษฐกิจโลก ได้ออกมาชี้แจงถึง ผลการศึกษาวิจัยเรื่องนี้ ที่ชี้ให้เห็นถึง การไม่เข้าใจต่อความท้าทาย ด้านการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่4
ของ ภาครัฐ และ ภาคธุรกิจ ที่ไม่มีความเข้าใจกับปัญหานี้อย่างจริงจัง และเป็นที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่งต่อสภาพเศรษฐกิจโลกในภายภาคหน้า
 หุ่น3
แล้วเหล่าผู้บริหารนายจ้างละมีความคิดเห็นเรื่องนี้กันอย่างไร จากรายงานฉบับที่สองในที่ประชุม หัวข้อ “อนาคตภาคแรงงาน 2018″ เป็นรายงานผลสำรวจเหล่าผู้บริหารบริษัทมากมาย ซึ่งเป็นตัวแทนของเหล่าแรงงาน กว่า 15 ล้านคน
ได้เผยข้อมูลว่า เมื่อเทียบกันกับรายงานเมื่อปี 2016 แล้ว การสร้างงานในปีนี้ มีแนวโน้มที่สูงขึ้นกว่าในอดีตที่ผ่านมา เหตุเพราะ เหล่าบรรดาผู้บริหารธุรกิจ ได้ตระหนักถึงโอกาส ของเทคโนโลยีที่จะสามารถทำให้เป็นไปได้
โดยจากรายงานดังกล่าว พบเพียงหนึ่งในสาม ซึ่งได้ตอบแบบสอบถามสำหรับการวางแผน ด้านการอบรมทักษะให้แก่เหล่าแรงงานอันมีความเสี่ยงต่อการตกงานจาก การนำเครื่องจักรกลมาแทนที่เท่านั้น
 หุ่น2
นอกจากนี้ทางสภาเศรษฐกิจโลก ยังกล่าวถึงแนวทางการแก้ไขที่ไม่ได้มีเพียงการฝึกอบรมต่อเหล่าพนักงานเท่านั้น
ยังรวมไปถึง การอบรมทักทักษะความรู้กับการสร้างเครือข่ายความปลอดภัยให้แก่พนักงาน ที่ทำงานนอกสถานที่อีกด้วย
ถือเป็นหนึ่งอีกความท้าทายสำคัญของเหล่านายจ้าง ที่ต้องหาทางจัดการกับเรื่องเหล่านี้
สุดท้ายนี้ ยังมีการกล่าวถึงรายงานการเพิ่มและลดจำนวนเหล่าแรงงาน อันมีเนื้อหาว่า ภายในปี 2022 อาจมีบริษัทกว่า 50% เลือกที่จะลดจำนวนแรงงานแบบเต็มเวลาลง แต่ก็ยังมีบริษัทอีกเกือบสองในห้า อาจเลือกที่จะเพิ่มจำนวนแรงงานมากขึ้น และท้ายสุดกับอัตตราบริษัทหนึ่งในสี่ ที่เลือกเครื่องจักรกลอัตโนมัติ เข้ามาสร้างบทบาทสำคัญใหม่กับบริษัทของตนแทน
 หุ่น6
บทสรุปของเรื่องนี้ในอนาคต จะเป็นจริงหรือไม่นั้น ระหว่างนี้เราก็คงต้องติดตามทิศทางของบริษัทต่างๆกันต่อไปว่า มีแน้วโน้มจะนำหุ่นยนต์มาแทนที่ตำแหน่งใดบ้าง แล้วคอยปรับตัวตามตลาดแรงงานไว้แต่เนิ่นๆ เพื่อให้ทันต่อยุคสมัย ในอนาคต

About

Browse Archived Articles by

No Comments

There are currently no comments on อนาคตแรงงานอาจตกงานกันมากขึ้น เมื่องานวิจัยชี้ เครื่องจักรทำหน้าที่แทนคนในอีก 7 ปีข้างหน้า. Perhaps you would like to add one of your own?

Leave a Comment