บุคลิคนิยมของวงการผู้ประกาศข่าว

Written by . Posted in สังคมและพฤติกรรมผู้คน, ใหม่

Tagged:

นักข่าว1-71

Published on with No Comments

บุคลิคนิยมของวงการผู้ประกาศข่าว

หากย้อนไปในสมัยอดีตเวลาที่ผู้ชมทางบ้านเปิดทีวีรับชมรายการข่าว เรามักจะได้เห็นบุคลิคของบรรดานักข่าวทุกช่องในยุคนั้นออกมาในสไตล์เดียวกันหมด  นั่นก็คือนั่งตัวตรงหน้าตรง และอ่านข่าวในฐานะที่แทบจะเรียกได้ว่า ตั้งหน้าตั้งตาอ่านตามสคริปกันอย่างเดียว เหมือนคนมาอ่านหนังสือพิมพ์ให้ฟัง อีกทั้งกริยาสีหน้าท่าทางของผู้ประกาศข่าว จะค่อนข้างเป็นทางการ ไม่มีการใส่ความคิดเห็นไม่มีการแสดงสีหน้าอารมณ์ร่วม ไม่มีลีลาคำพูด

นักข่าว1-8

เป็นอยู่อย่างนั้นหลายปี จนในวันหนึ่งก็มีผู้ริเริ่มในยุคแรกๆ อย่างเช่น สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล หรือ (ฮาร์ท) เริ่มนำลีลาแบบผู้ประกาศข่าวต่างประเทศมาใช้

นักข่าว1

มีการแสดงกริยาที่รีแลคผ่อนคลาย เอนจอยไปกับการรายงานข่าว มีลีลาในการพูด มากขึ้น  มีการแวะทักทายหยอกคู่ประกาศข่าว มีการแสดงความเห็นและสีหน้าอารมณ์ต่างๆลงไปในขณะที่บรรยายข่าว

นักข่าว1-2

ปรากฏการนั้นเองเรียกได้ว่า เริ่มจะฉุดดึงเรทติ้ง วงการข่าวขึ้นมา ให้กลายเป็นอะไรที่มีความบันเทิงมากขึ้น และเป็นวงการที่ สามารถมีการแจ้งเกิดได้ สร้างความเด่นดังให้ตัวบุคคลได้ แบบเดียวกับวงการศิลปปินดาราได้เลยทีเดียว

นักข่าว1-5 นักข่าว1-4 นักข่าว1-3 นักข่าว1-6 นักข่าว1-7

วงการข่าวเริ่มมีเสน่ห์มากขึ้น ทำเรทติ้งแข่งขันกันเพิ่มขึ้น ซึ่งนอกจากลีลาแบบเป็นกันเองแล้ว อีกฟากหนึ่งก็ยังมีผู้ประกาศข่าวอีกส่วนที่ใช้บุคลิคสไตล์ในแบบ มาดเข้ม สอดแทรกการวิเคราะอย่างเฉียบคม และในอีกแบบคือการยิงคำถามที่โดนใจผู้ชม อย่างเช่นสรยุทธ์ เป็นต้น

อย่างไรก็ตามทั้งหมดทั้งมวลทำให้บรรดาผู้ประกาศข่าวรุ่นใหม่ อีกมากมายหลายต่อหลายคนต่างพยายามที่จะ ทำตัวผลักดันตนเองให้ไปสู่จุดที่โด่งดังให้ได้ และจากวันนั้นถึงวันนี้ เกิดปรากฏการ ที่น่าสนใจอยู่ประการหนึ่ง ที่น่าสนใจนั่นก็คือ กระแส การเลียนแบบบุคลิค กันแบบชนิดที่ ระบาดหนักและหลายคนทำไปแล้วไม่กลมกลืนเป็นธรรมชาติ

นักข่าว1-71

มีนักข่าวรุ่นใหม่มากมายปักใจเชื่อว่าบุคลิคสไตล์ ที่ดูเป็นนักข่าวที่เก่ง นั้นเริ่มจาก การพูดจาฮ้วนๆ  หรือการไม่พูดคำว่า “ครับ”บ่อยนัก  แต่เปลี่ยนไปเป็น  ” ฮะ,ฮ่ะ, อื่มม ,เอ่อ,” มากขึ้น หรือ มีการทำกริยาที่เพิ่มความแข็งขึ้น ฮ้วนขึ้น หรือบางคนพยายามทำบุคลิคให้เป็นประเภทดูแรงขึ้น ปากเก่งขึ้น   ซึ่งค่านิยมดังกล่าวกำลังเป็นพฤติกรรมเลียนแบบที่เห็นได้ชัดถึงค่านิยม ถึงความ จงใจและดัดขึ้นเราจะเห็นผู้ประกาศข่าวหน้าใหม่มากมายที่พยายามดัดบุคลิคของตนเอง ให้ลดความสุภาพอ่อนน้อมอย่างดูจงใจทำ ไม่ใช่ตัวของตัวเอง

บางคนพยายามที่จะดังด้วยการยิงคำถามแรงๆ แต่กลับไม่มีความแยบยลบางคนไม่มีความคิดวิเคราะเฉียบแหลมได้อย่างแท้จริง แต่ก็พยายามที่จะแสดงออกจนดูไม่เข้าท่า บางคน จงใจที่จะฮ้วน ที่จะขรึม แต่กลับกลายเป็นไม่ธรรมชาติและดูเหมือนคนที่จงใจไม่สุภาพ

นักข่าว1-72

บางคนพยายามที่จะช่างพูด แต่กลับกลายเป็นเลอะฟุ้งบางคนพยายามดัดสำนวนคำพูด จากครับ เป็น แขร่บ และอีกสารพัดที่จะสร้างสรรค์ขึ้น กลับกลายเป็นจริตที่ดูเฟค และไม่กลมกลืน

บางคนคิดมุกที่จะให้ผู้ชมได้จดจำ ด้วยการคิดท่าทางออกแอ๊คชั่นทำมือทำไม้ สร้างตัวตนที่จะจดจำง่าย หรือวลีเด็ด ที่ผู้ชมจะจดจำได้ นั้นถือเป็นการสร้างสรรค์ที่ดีแต่หากบางคนทำออกมาแล้ว ดูเปิ่นก็มีหลายคน

นอกจากนี้ หลายต่อหลายคนขาดความแสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเอง เพราะจงใจมากไปที่จะไปเลียนแบบผู้อื่นที่เขามีความเป็นตัวของตัวเอง

วงการนักข่าวนั้นเป็นวงการที่ เรื่องของบุคลิคถือเป็นเรื่องที่สำคัญและ ค่อนข้างใส่ใจต่อสิ่งนี้ การที่ผู้ชมได้ดูข่าวไปด้วยและได้สังเกตุบุคลิคของนักข่าวไปด้วย นั้นมีอะไรให้ศึกษามากมายหากเราได้ลองสังเกตุดูให้ลึก

ถือเป็นรายการที่มีเนื้อหาทางบุคลิคให้เราได้ศึกษา การฝึกฝนบุคลิคของมนุษย์ได้อย่างดีเลยทีเดียว

About

Browse Archived Articles by

No Comments

There are currently no comments on บุคลิคนิยมของวงการผู้ประกาศข่าว. Perhaps you would like to add one of your own?

Leave a Comment